สูตรการทำจุลินทรีย์...
 
Notifications
Clear all

สูตรการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงให้ติด 100%

1 Posts
1 Users
0 Reactions
465 Views
นายฟองเบียร์
(@admin)
Posts: 151
Reputable Member Admin
Topic starter
 

ถ้าหากเอ่ยถึงการบำรุงรักษาต้นไม้รวมไปถึงพืชผล สิ่งที่ข้องเกี่ยวรวมไปถึงขาดไม่ได้นั่นก็เช่นนั้นแล้ว จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เพราะปัจจุบันมีการใช้กันมาก รวมไปถึงให้ผลลัพธ์แล้วว่ามีประโยชน์ในด้านการเกษตรเป็นอย่างมาก แต่จะมีประโยชน์อย่างไรวันนี้มาดูกัน

สำหรับที่นำมาใช้ในการเกษตรรวมไปถึงสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสีม่วง ซึ่งพูดได้ว่าเป็นกลุ่มที่ไม่สะสมกำมะถัน โดยแบคทีเรียชนิดนี้เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแสง จะเกิดกระบวนการใช้แสง ถ้าหากสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ไม่มีแสงก็เปลี่ยนระบบมาเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้แสง ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

ฉะนั้นจึงนำประโยชน์จากกระบวนการดำรงชีวิตนี้มาใช้ในการปรับปรุงสภาพดิน ให้เหมาะสมกับการดูดซึมสารอาหารของพืช รวมไปถึงช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่พืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้อย่างนี้แล้ว จะไม่ลองทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เองบ้างหรือ

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ข้อมูลโดยกรมวิชาการเกษตร

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ข้อมูลโดยกรมวิชาการเกษตร

ดูเรื่องที่ข้องเกี่ยวกับ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

เราจะทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง ให้เห็นผลภายในกี่วันถึงจะแดง อ่านเรื่องนี้มีคำตอบ

ก่อนจะทำให้แดง ลองมาดูส่วนผสมกันก่อน อันดับแรกเริ่มให้เตรียมของมาดังนี้

  1. น้ำสะอาด 10 ลิตร
  2. ไข่สด (ไข่เป็ด ไข่ไก่ 1 ฟอง)
  3. สารเร่ง (มีหรือไม่ก็ได้) เช่น ผงชูรส เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ ซึ่งพูดได้ว่าเป็นตัวช่วยเร่งความเร็วในการหมัก

ขั้นตอนการทำไม่ยาก นำไข่สดตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมอื่นตามลงไป เช่น น้ำปลา, นมเปรี้ยว, ผงชูรส, กะปิ, นม หรือน้ำตาล อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งพูดได้ว่าส่วนผสมที่เป็นตัวเร่ง ใช้แค่ 1 ช้อนชา (ใส่มากก็เปลือง เพราะไม่ได้ช่วยเร่งปฏิกิริยาอะไรมากมาย โดยหลักการก็ขึ้นอยู่กับแสงแดด) แล้วคนให้เข้ากันดี

เสร็จแล้วนำไข่ที่ตีแล้วเทลงไปผสมกับน้ำสะอาดในขวด อัตราส่วน ไข่ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตรโดยประมาณ ใส่มากกว่านี้ก็เปลือง เพราะไม่ได้ช่วยเร่งปฏิกิริยาอะไรมากมาย โดยหลักการก็ขึ้นอยู่กับแสงแดด เมื่อเทส่วนผสมได้ที่แล้วก็เขย่าๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำสีขาวขุ่นๆ แล้วนำไปตากแดดในที่แดดส่องถึงทั้งวัน รอเวลาให้เกิดสีแดง

ไข่ 1 ฟองสามารถผสมกับน้ำได้มากสุด 10 ลิตร ซึ่งพูดได้ว่าพิสูจน์แล้วว่าประหยัดสุดๆ รวมไปถึงได้ผลแน่นอน

ทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เอง ทำไมออกสีเขียว ทำไมไม่เป็นสีแดง หรือ ทำไมเป็นแต่สีแดง ไม่เคยเจอสีเขียว สีเขียวเป็นตะไคร่หรือเปล่า แล้วใช้รดผัก บำรุงดินได้ไหม หลากหลายคำถาม มีคำตอบตรงนี้...

สาเหตุที่จุลินทรีย์สังเคราะ์แสงเป็นสีเขียว หรือสีแดง เป็นเพราะ "น้ำ" หากใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จะได้ทั้งสีเขียวรวมไปถึงสีแดง เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้มีอยู่ในธรรมชาติแล้วนั่นเอง เราเพียงแค่ ขยายรวมไปถึงเพิ่มจำนวนมันให้มีมากขึ้นเท่านั้นเอง

หมักหัวเชื้อทำเอง ก็สะดวกในการบำรุงพืชผักรวมไปถึงดิน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซื้อปุ๋ย รวมไปถึงฮอร์โมนต่างๆ ให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แถมยังใช้ได้ต่อเนื่องไม่มีผลเสียใดๆ รู้อย่างนี้ ไม่ลองทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงดูไม่ได้แน่นอน

ดูหัวข้ออื่นๆ ที่ข้องเกี่ยวในเรื่อง โทษของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

แต่เดิมเรารู้กันว่า ยิ่งใช้ก็ยิ่งมีประโยชน์ มักจะไม่เจอโทษหรือผลเสียหาย แต่ปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากการใช้จุลินทรีย์ที่เกิดจากการหมักดองประเภทนี้ มันจะทำให้เราได้จุลินทรีย์จริง หรือ อาจได้เชื้อโรคที่เข้าใจว่าเป็นประโยชน์ มีคนสงสัยกันไหมในข้อนี้

ตามที่หลายคนตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าในส่วนของการปนเปื้อนของหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง รวมไปถึงนำมาซึ่งพูดได้ว่าเชื้อที่สามารถก่อโรคระบาดสู่เกษตรกรผู้ใช้ เนื่องจากผลของการใช้ของหมักมาเป็นอาหารให้หัวเชื้อรวมไปถึงเกิดการปนเปื้อน

โทษของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจากการปนเปื้อน

ข้อสังเกตุเช่นนั้นแล้ว "ถ้าหากสีแดงที่พบนั้น เช่นนั้นแล้ว แบคทีเรียสังเคราะห์แสงจริง น้ำสีแดงหรือสีเขียวก็ไม่ควรจะมีสีเมื่อหมักตั้งไว้ในที่ร่ม เนื่องจากไม่เกิดการสังคราะห์แสงจริง (ไม่โดนแสง)"

ข้อพิสูจน์แล้วเช่นนั้นแล้ว "จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถเจริญได้ทั้งในแบบใช้แสงรวมไปถึงไม่ใช้แสง
นอกจากนี้ ไม่เคยพบรายงานใดที่ระบุว่าจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเป็นสาเหตุในการเกิดโรคต่อเกษตรกร นักวิจัยของญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่ค้นพบว่านอกจากจะมีประโยชน์กับพืชแล้ว สามารถผสมอาหารเพื่อเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย"

แต่ก็ยังไม่จบที่ว่า เชื้อที่ก่อโรคสามารถพบได้ตามธรรมชาติทั่วไป เพราะในธรรมชาติ มีจุลินทรีย์หลายชนิดที่สร้าง pigment เม็ดสีในเซลล์ได้ เช่น ยีสต์ รา รวมถึงแบคทีเรีย ถึงจะไม่มีกระบวนการสังเคราะห์แสงแต่เซลล์ก็ยังแดงได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่หลายคนกลัว ว่าการใช้จุลินทรีย์ที่ไม่ได้ผ่านการทำอย่างถูกวิธี จะมีการปนเปื้อนของเชื้อที่ก่อโรคตั้งแต่คราวแรก รวมไปถึงอาจทำให้เกิดโทษมากกว่าได้ประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

สรุป : แม้ว่าการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงใช้เองแบบไม่ได้มาตรฐาน (เฉพาะในห้องแลปเท่านั้นที่จะไม่มีการปนเปื้อน) แต่ในความเป็นจริง ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ระดับการปนเปื้อนจากการผลิตหัวเชื้อ จะสร้างเชื้อก่อโรคจนทำให้เกิดอันตรายต่อเกษตรกรได้จริง เพราะถึงอย่างไร การทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ย่อมได้ประโยชน์มากกว่าโทษอย่างแน่นอน

ติดตามสาระความรู้และเนื้อหาข่าวทันเหตุการณ์ได้จากกระดานข่าวเราที่ fullbeers.com/board/

 
Posted : 12/01/2022 4:06 pm
พันธุ์อะโวคาโดที่ให้ผลผลิตดีสุด

สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีสุด ที่สวนของชาวเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกกัน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยใช้วิธีการเสียบกิ่ง ทาบกิ่ง มากกว่าจะเป็นการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่น ๆ

Read More
ส่วนลดช้อปปี้เดือนพฤศจิกายน กับโปร 5×5 รีบเลยก่อนหมด

ส่วนลดช้อปปี้เดือนพฤศจิกายน กับโปร 5x5 รีบเลยก่อนหมด

Read More
ส้มแก้วสมคิด พรรณไม้ใหม่ของโลกที่คนไทยค้นพบ

ส้มแก้วสมคิด เป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก ที่นักวิจัยไทยได้ค้นพบ มีลักษณะคล้ายกับมะแปม รสเปรี้ยว รับประทานได้

Read More
น้ำส้มควันไม้ มีประโยชน์อะไรบ้าง

น้ำส้มควันไม้ ได้จากการกลั่นควันสีขาวที่เกิดจากการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ของเชื้อเพลิงจากพืชพลังงานชนิดต่าง ๆ จนได้เป็นกรดชนิดหนึ่ง

Read More
มะเขือยาว พืชสวนครัวที่ควรปลูกไว้ติดบ้าน

มะเขือยาว ชื่อภาษาอังกฤษ SO-LANUM MELONGENA LINN. วงศ์ SOLA-NACEAE เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1 เมตร

Read More
เห็ดนางฟ้า พืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้งาม

เห็ดนางฟ้า หรือ เห็ดนางรมอินเดีย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Indian Oyster, Phoenix Mushroom, หรือ Lung Oyster

Read More
ข้าววัชพืช หญ้าข้าวผี

ข้าววัชพืช หรือ หญ้าข้าวผี ข้าวที่เป็นอุปสรรคต่อชาวนา เนื่องจากไม่ได้คุณภาพ แต่ขยายพันธุ์ได้เร็ว กำจัดได้ยาก

Read More